พร้อมโอนเงินเยียวยา ประกันสังคม เข้าบัญีชีผ่านพร้อมเพย์ 4 สิงหาคมนี้

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมธนาคารไทย ประสานธนาคารสมาชิก เพื่อเตรียมพร้อมดำเนินการรับโอนเงิน

เยียวยาประกันสังคมเข้าบัญชีธนาคารผ่านระบบพร้อมเพย์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้นายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ที่ได้รับ

ผลกระทบจากการถูกปิดกิจการตามประกาศคำสั่งของ ศบค. รวม 13 จังหวัด 9 ประเภทกิจการกว่า 2.87 ล้านราย

โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะโอนให้ผู้ประกันตนตาม ม.33 ที่ได้รับสิทธิในวันที่ 4-6 ส.ค.64 เฉพาะ 10 จังหวัด จำนวน

ผู้ประกันตนกว่า 2.87 ล้านราย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ, นราธิวาส,

ปัตตานี, ยะลา และสงขลา สำหรับ 3 จังหวัดที่เหลือ ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ พระนครศรีอยุธยา จะแจ้งการโอนเงินให้

ทราบอีกครั้งในภายหลัง

ทั้งนี้ นายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือนี้ ต้องเป็นผู้ได้สิทธิตามคุณสมบัติและเงื่อนไข โดย สปส.จะเปิดให้

ตรวจสอบสิทธิบนเว็บไซต์ของ สปส. โดยผู้ประกันตนที่มีบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนจะได้รับการโอนเงินเข้า

บัญชีโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องติดต่อธนาคารเพื่อเปิดบัญชีใหม่ หรือลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยบัตรประชาชนใหม่

สำหรับผู้ประกันตนที่ได้สิทธิและมีบัญชีธนาคาร แต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน หรือ เดิมผูกด้วยเบอร์

โทรศัพท์มือถือ สามารถดำเนินการผูกบัญชีหรือเปลี่ยนพร้อมเพย์จากโทรศัพท์มือถือ มาเป็นผูกกับหมายเลขบัตรประชาชนด้วย

ตนเอง ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารที่มีบัญชีอยู่ เช่น Mobile Application, Internet Banking และเครื่อง ATM

ตามช่องทางที่แต่ละธนาคารให้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาธนาคาร เพื่อความสะดวกและลดความเสี่ยงจากการ

ระบาดของโควิด-19

ส่วนผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิและยังไม่เคยมีบัญชีเงินฝาก สามารถใช้บริการเปิดบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นค่อยลง

ทะเบียนผูกพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชน ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอรับสิทธิตามมาตรการเยียวยาดังกล่าว

หากมีข้อสงสัยเรื่องการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน หรือช่องทาง ที่สามารถทำได้ สามารถศึกษาข้อมูลผ่าน

เว็บไซต์ หรือ ติดต่อสอบถามผ่านคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารที่ใช้บริการอยู่

ทั้งนี้ ต้องลงทะเบียนพร้อมเพย์ก่อนวันที่ 4 ส.ค.64 อีกทั้งผู้ประกันตน ม.33 สามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาได้ที่

https://www.sso.go.th หรือโทรศัพท์สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

หากผู้ประกันตนมีความจำเป็นต้องไปทำธุรกรรมที่สาขาของธนาคาร ทางสมาคมธนาคารไทย ขอความร่วมมือผู้ติดต่อใช้บริการ

ณ สาขาธนาคาร ในการปฏิบัติตนตามมาตรฐานดูแลความปลอดภัยที่ธนาคารแต่ละแห่งได้กำหนดไว้ เพื่อร่วมกันป้องกันการ

แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

อ่านเพิ่มเติม