อย่าแตกตื่น ภาพประชาชนเเห่ซื้อของกักตุนเสบียงเเน่นขนัด
หลังจากที่ทาง หมอธีระ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อควา
มทางเฟซบุ๊คตนเอง “Thira Woratanarat” ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยมีการระบุว่า
สถานการณ์ทั่วโลก 28 กรกฎาคม 2564 สายๆ วันนี้จะทะลุ 196 ล้าน ในขณะที่ฝรั่งเศสมียอดรวมเกิน 6 ล้าน
ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 562,129 คน รวมแล้วตอนนี้ 195,921,795 คน ตายเพิ่มอีก 9,258 คน
ยอดตายรวม 4,192,173 คน พร้อมเตือนคนไทย ตุนเสบียงของจำเป็น ไว้ 2-4 สัปดาห์ วางแผนใช้จ่าย ระวังการลงทุน
สำหรับสถานการณ์ของไทยเรา ตอนนี้มียอดติดเชื้อรวมอยู่ที่อันดับ 46 ของโลก อีก 2-3 วันจะแซงคาซักสถานขึ้น
เป็นอันดับ 45 ได้ ไทยมีจำนวนผู้ป่วยรุนแรงและวิกฤติ มากเป็นอันดับที่ 7 ของโลก เป็นรองเพียงอินเดีย อเมริกา
บราซิล โคลอมเบีย อิหร่าน และเม็กซิโก แต่หากดูเฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้…เราเป็นอันดับ 1…
หากประเมินสถานการณ์ปัจจุบันที่ไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้ด้วยมาตรการที่ดำเนินการอยู่ สิ่งที่ควรเราควรเตรียมรับมือ มีดังนี้
1. การติดเชื้อใหม่จะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด ทั้งนี้ต่างจังหวัดในเขตเมืองจะมีมากขึ้น
2. จังหวัด/เกาะ ที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น การระบาดจะเริ่มเห็นเพิ่มขึ้น แต่มีแนวโน้มจะชัดเจน
มากช่วงปลายสิงหาคม โดยปัจจัยหลักเกิดจากกิจกรรมกิจการต่างๆ ที่มีมากขึ้นในพื้นที่ ทำให้พบปะกัน สัมผัสกัน สังสรรค์กัน
กระตุ้นให้การติดเชื้อแฝงในชุมชนที่มีอยู่เดิมนั้นขยายวงขึ้นนั่นเอง ดังนั้นจึงต้องป้องกันตัวให้เข้มแข็ง ปรับรูปแบบการดำเนิน
กิจการกิจกรรมต่างๆ ให้เน้นความปลอดภัย
3. ด้วยจำนวนติดเชื้อใหม่รายวันมีมาก ระบบการดูแลไม่ว่าจะที่บ้าน ที่พักคอย ที่ รพ.สนาม หรือที่โรงพยาบาล ไม่มีทางเพียงพอ
ดังนั้นบทบาทของชุมชนจึงมีความสำคัญอย่างมากที่จะประคับประคองดูแลคนในพื้นที่ ปัญหาการติดเชื้อภายในที่อยู่อาศัยจะยังมาก
ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเมินแล้วคาดว่า shortcut ที่จำเป็นต้องทำคือ การเปิดวัดและโรงเรียนเพื่อรับผ่องถ่ายจากบ้านมาอยู่ที่นี่แทน
จึงจะมีโอกาสลดทอนการแพร่เชื้อภายในบ้านได้ โดยอาจต้องขอกำลังพระภิกษุและคุณครูมาเป็นผู้ช่วยดูแลกำกับหรือประสานงาน
4. เตรียมเสบียงและสิ่งของจำเป็นไว้ในบ้าน ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม ยาสามัญประจำบ้านไว้สัก 2-4 สัปดาห์ ก็จะเป็นประโยชน์
ยามฉุกเฉิน การทบทวนสิ่งสำคัญ ข้อมูลสำคัญส่วนตัว และบันทึกไว้ในที่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย หากไม่สบายและมีข้อจำกัดในการดูแล
รักษาตัว ก็จะสามารถส่งต่อให้กับสมาชิกในครอบครัวได้โดยไม่ต้องกังวลหรือเป็นห่วง
5.-วางแผนการใช้จ่าย ระมัดระวังเรื่องการลงทุน หลีกเลี่ยงการกู้ยืมเงินโดยไม่จำเป็นจริงๆ และระวังมิจฉาชีพที่จะหลอกลวงด้วยวิธีต่างๆ
ทั้งการค้าขาย การโฆษณาเกินจริง การล่อด้วยกิเลสให้เข้าถึงการรักษา หยูกยา รวมถึงวัคซีนต่างๆ
สถานการณ์ล่าสุดในวันนี้ 29ก.ค.64 ทางเพจ อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก เปิดภาพผู้คนเเห่มาจับจ่ายตุนของ ตุนอาหารเเน่นขนัด
เมื่อวานมีอาจารย์หมอออกมาบอกประมาณว่าให้เตรียมข้าวของเสบียงไว้ในบ้านสัก 2-4 อาทิตย์ ให้วางแผนให้ระวังเรื่องการลงทุน.
ผลคือเช้าวันนี้คนแน่นแมคโครเลย ขนลุกมาก ส่วนตัวที่บ้านจะเข้าแมคโครไปซื้อของไว้ทำกับข้าวอยู่แล้ว เห็นแล้วตกใจ ผมเข้าใจว่า
อาจารย์หมออาจจะมาพูดเพื่อให้คนระวังหรือเตรียมตัวไม่จำเป็นอย่าออกนอกบ้าน หรือจะอะไรก็แล้วแต่เถอะ ถ้ามันจะต้องกักตุนเสบียง
กันขนาดนั้นจริงๆ รัฐบาลจะต้องมีมาตรการรองรับหรือมีการแจ้งบอกประชาชนด้วยว่าให้เตรียมตัวยังไง ต้องมีระยะเวลาให้คนเตรียมตัว
ต้องมีการควบคุมสินค้า
มาม่าปลากระป๋องอะไรพวกนี้ไม่ต้องไปซิ้อเยอะหรอก ถึงเวลาไม่มีใครกินได้ทุกวันหรอกครับ และก็ดีไม่ดีข้าวของขาดตลาด ของขึ้น
ราคาไปอีก นี่อยากจะบอกว่าสถานการณ์แบบนี้ คำพูดจากผู้หลักผู้ใหญ่หมอหรืออะไรนี่เครดิตสูงมากนะ สื่อเองก็ด้วย ควรจะเขียน
ให้มันเคลียร์หรือไปสอบถามผู้เกี่ยวข้องให้ชัดเจนก่อนจะล็อกดาวน์แน่ไหม ที่บ้านมีแต่คนตกใจเรื่องนี้กันจนจะเป็นบ้าแล้ว แนะนำคือ
กดแอปสั่งของเล็กๆน้อยๆไว้ติดบ้านอย่างพวกกุนเชียงอะไรพวกนี้ก็พอมั้ง สั่งไม่ต้องเยอะมาก เรากินอะไรพวกนี้ไม่ได้ทุกวันอยู่แล้วนะ
เงินทองมันหายากนะครับ ไปซื้ออาหารมาตุนเนี่ยก็ดีแหละ แต่ถ้ามีอะไรฉุกเฉินจริงๆ เงินหมดก็ลำบากนะครับ ช่วงนี้ทำอะไรคิดเยอะๆ
ซื้อเสบียงตุนก็เถอะ เหนื่อยนะครับ รัฐบาลออกมาพูดอะไรสักหน่อยเถอะ เอาชัดๆเลย ถ้าจะล็อคดาวน์ปิดประเทศเด็ดขาดจะทำก็ทำ
ให้เวลาประชาชนตั้งตัวกันหน่อย ถ้าถึงจุดนั้น รัฐบาลเองก็ต้องมีมาตรการรับผิดชอบดูแลประชาชนที่เค้าออกมาทำมาหากินไม่ได้ด้วยเน้อ
ประชาชนไม่ได้อิ่มทิพย์ ไม่ได้เป็นลิงแสมนะ จะได้เก็บใบไม้ใบหญ้ากินได้ ไม่ได้นั่งๆนอนๆอยู่กับบ้านก็มีเงินมาลอยเข้าบัญชีเป็นร้อย
ล้านพันล้านนะครับ…
ขอบคุณ
อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก
Thira Woratanarat