เกษตรกรเฮ เยียวยาช่วยเหลือจัดเต็ม สินเชื่อ พักหนี ไกล่เกลี่ยถูกยึดทรัพย์
วันที่ 26 ก.ค.64 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการรัฐ
ในการบรรเทาปัญหาหนี้สินประชาชน และการเข้าถึงสภาพคล่องของภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรป้องกันการ
แพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งในเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้การดำเนินการต้องครอบคลุม
กลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในภาคการเกษตรด้วย โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.)
ได้ออกมาตรการสินเชื่อ 2 โครงการ วงเงินรวม 9 หมื่นล้านบาท
คือ 1) โครงการสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้แก่เกษตรกรหรือหรือบุคคลทั่วไปที่ได้รับ
ผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อการประกอบอาชีพเกษตร หรือลงทุนค้าขายที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก ให้กู้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย
ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 5 ปี ดอกเบี้ย 4% ต่อปีปลอดชำระต้นเงิน 2 ปีแรก และ 2) โครงการสินเชื่อนวัตกรรมดี มีเงินทุน
วงเงินรวม 6 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้ให้เกษตรกรหรือบุคคลทั่วไปที่มีทักษะและประสบการณ์ในการประกอบอาชีพนั้นๆ
อาทิ กลุ่ม Smart Farmer เพื่อมีเงินไปฟื้นฟูหรือต่อยอดธุรกิจ ดอกเบี้ย 4% ต่อปี ระยะเวลาชำระคืน ไม่เกิน 10 ปี
ปลอดชำระต้นเงิน 3 ปีแรก
สำหรับการพักชำระหนี้ ธ.ก.ส.ได้ออกมาตรการให้การช่วยเหลือแก่ลูกค้าเกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการ และสถาบันเ
กษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วย เป็นการพักชําระเงินต้นและดอกเบี้ยที่ถึงกําหนดชําระอย่างน้อย 2 เดือน
นับจากงวดชําระเดิม ทั้งนี้ แนวทางการช่วยเหลือขึ้นอยู่กับการได้รับผลกระทบและศักยภาพของลูกค้า ผู้สนใจแจ้งความ
ประสงค์การเข้าร่วมโครงการได้ผ่านช่องทาง LINE Official : BAAC Family เว็บไซต์ https://www.baac.or.th
หรือที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. – 15 ส.ค.นี้
และสำหรับลูกค้าเกษตรกรและบุคคล 19 ก.ค. -15 ธ.ค. ปีนี้เช่นกัน
คู่ขนานไปกับสองมาตรการดังกล่าว น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มว่า กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ได้จัดโครงการ “บังคับคดีร่วมใจ
ไกล่เกลี่ยช่วยเหลือเกษตกรถูกยึดทรัพย์จำนอง” เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ได้เจรจากันด้วยความพึงพอใจ และเป็นธรรม
ผู้ไกล่เกลี่ยกรมบังคับคดีเป็นคนกลางในการเจรจา โดยเจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้ และลูกหนี้ก็สามารถชำระหนี้ได้เช่นกัน
ช่วยให้ลูกหนี้ไม่ถูกยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ หรือนำไปขายทอดตลาดในที่สุด โครงการนี้มีจนถึง 15 ก.ย.นี้ ในพื้นที่กทม.
และสำนักงานบังคับคดีจังหวัด/สาขาทั่วประเทศ รัฐบาลได้ออกมาตรการให้การช่วยเหลือประชาชนและบรรเทาผลกระทบที่เกิด
จากการแพร่ระบาดโควิด-19 มุ่งหวังให้ครอบคลุมกับประชนทุกกลุ่ม โดยพร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและภาคเอกชน
เพื่อให้การขับเคลื่อนฟื้นตัวเป็นไปอย่างมีส่วนร่วมและตรงจุดให้มากที่สุด สำหรับการประชุมครม.ในวันพรุ่งนี้ จะมีการพิจารณาถึง
มาตรการลดค่าเทอมของนักเรียน-นักศึกษาทั้งสถาบันรัฐและเอกชน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนได้มาก
นางสาวรัชดา กล่าว