วิจารณ์สนั่น ตำรวจจับกุมผู้ป่ วยติดเตียง หลังปลูกกัญชาไว้ต้มกินรักษาโ รค
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ นายสมร ทิพบุญชู ได้โพสต์เรื่องราวของชาวบ้าน ที่ถูกตำรวจจับ เนื่องจากปลูกต้นกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยระบุว่า
ตำรวจตำบลเชียงใหม่อำเภอโพธิ์ชัยและฝ่ายปกครองอำเภอโพธิ์ชัยจังหวัดร้อยเอ็ดโชว์ผลงานบุกจับกุมผู้ป่วยติดเตียงที่รักษาตนเองด้วยกัญชาจำนวน 2 ต้น
เมื่อเวลา 16.00 น.ณบ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 1 บ้านเชียงใหม่ ตำบลเชียงใหม่อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าของบ้าน นายทองบ่อ กมลวิบูลย์ อายุ 79 ปี
ได้อาศัยในบ้านดังกล่าวพร้อมบุตรหลาน..เป็นผู้ป่วยติดเตียงมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้ทำการรักษาโรคความดัน โรคเบาหวาน โคเบื่ออาหารและโรคอื่นร่างกายอ่อนเพลียตลอดเวลา
ตนเองได้พบแพทย์พยาบาลหลายโรงพยาบาลหลายแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลประจำอำเภอโพธิ์ชัยจังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ตนเองได้เข้าไปทำการเยียวยารักษาโรคมาโดยตลอด
แต่อาการก็พอบรรเทาไม่หายขาดจากโรคร้ายที่เกิดเรื้อรังมาหลายปี
ต่อมาผู้ป่วยได้นำใบกัญชาแห้งจากผู้ป่วยรายอื่นให้มารักษาโรค ผู้ป่วยได้นำมาใส่กาต้นมน้ำร้อน นำมามาดื่มกิน รักษาอาการเจ็บป่วยนั้นก็สามารถที่จะบรรเทาการเจ็บป่วยได้ดีตามลำดับและสามารถลุกขึ้นรับประทานอาหารได้ดี
พอเดินไปมาพอได้ดูแลบุตรหลานได้ เนื่องจากคนในครอบครัว ต้องไปทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว
แต่ในช่วงเวลา 16.00 น.เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาค้นบริเวณบ้านพักจึงพบต้นกัญชาดังกล่าว ในเวลานั้นนายทองบ่อ กมลวิบูลย์ ไม่สามารถที่จะขึ้นลุกจากเตียงได้จึงได้มอบหมายให้นายไพโรจน์ ทิพบุญชู
ซึ่งเป็นบุตรเขยของตนเองพบกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่มาตรวจค้นพบต้นกัญชา แล้วเจ้าหน้าที่ได้ถามนายไพโรจน์ฯ บุตรเขยตนเองว่า ว่าใครเป็นคนปลูกกัญชา นายไพโรน์ จึงได้ยอมรับแทน ว่าตนเองเป็นคนปลูกเอง
เจ้าหน้าที่ได้จับกุมทันที ซึ่งไม่ได้ไต่สวนความเป็นมาแต่ประการใด นายทองบ่อ ได้ยินแต่เสียงได้เพียงนอนร้องไห้บนเตียงนอนไม่สามารถที่จะลุกขึ้นมาให้การได้
จึงเข้าใจจิตใจบุตรเขยที่เป็นตัวแทนพ่อตาที่จะต้องรับผิดตามกฏหมายครั้งนี้ ตนเองเป็นผู้ป่วยจะถูกจับกุมมที่ปลูกกัญชารักษาตนเอง ก็ทราบดีว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5
ข้อเท็จจริง ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายเป็นการถูกต้องแล้ว ข้อกฏหมายยังต้องพึ่งศิลธรรม ความเมตตา ความเป็นคนไทย
ยังพอมีอยู่ในเวลานี้เจ้าหน้าบ้านเมืองนเวลลานี้ควรคิดถึงความเมตตาธรรมคำนึงถึง ความเป็นอยู่ของชาวบ้านซึ่งอยู่ในฐานะยากจนสุดด้วยสภาวะสถานการณ์โลกเป็นแบบนี้
ได้ปลูกกัญชา จำนวน 2 ต้น เพื่อรักษาตนเองไม่ได้ปลูกไว้เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกผู้สั่งการให้เข้าจับกุมควรเข้าถึงชาวบ้านมากกว่านี้ ยาเสพติดประเภทอื่นที่กระจายอยู่ในพื้น ที่ของอำเภอ จังหวัด เต็มไปหนดเจ้าที่ตำรวจ
น่าจะสนใจเรื่องนั้นมากกว่าซึ่งทราบๆกันอยู่มีมากมายในเวลานี้ กระทำความผิดที่ปลูกกัญชา เจ็บป่วยมาระยะเวลายาวนานว่า ใช้สมุนไพรกัญชาแทนยาแผนปัจจุบันถือว่าผู้ป่วยอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปหาหมอลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนน่าะมองมุมนั้นมากกว่า เจ้าหน้าที่ชุดนี้น่าจะทำให้ประชาชนได้ กินอิ่ม นอนอุ่น.ทุนมีหนี้หมดมากกว่า
จึงถามถึงเจ้าที่และผู้บังคับบัญชานพื้นที่อำเภอนี้ ใช้ศีลธรรม ความเมตตาหรือไม่ ดูสภาพความเป็นอยู่ผู้ป่วย เวลานี้
ขอบคุณ นายสมร ทิพบุญชู