พ่อแบม แฉ พิรุธลุงพลอีก

วันที่ 4 กันยายน 2563 นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า ช่วงที่น้องชมพู่หายตัวไป วันที่ 11-14 พ.ค.63 ค่อนข้างวุ่นวายและสับสน

ยิ่งเป็นวันที่ 14 ที่จะจบการค้นหา ก็ยิ่งวุ่นวาย ตนคงไม่มีเวลาไปนั่งดื่มเหล้ากับใคร รวมถึงตำรวจ สภ.กกตูม ก็ไม่ได้มานั่งที่บ้าน แต่ส่วนมากจะเรียกตนไปที่ สภ. มากกว่า อย่าว่าแต่นั่งดื่มเหล้าเลย แม้แต่น้ำเปล่าก็ยังไม่ได้กิน จนหมออนามัยต้องเอาน้ำผสมเกลือแร่มาให้กิน

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

และอีกกรณีที่เพจ อย่าหาทำ ระบุว่า ทางครอบครัวน้องชมพู่ได้รับเงินบริจาค 3 ล้านบาท ด้านนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่

ให้ข้อมูลว่า ตนยืนยันว่าไม่เคยเปิดรับบริจาค และเงินจำนวน 3 ล้านบาทไม่มีจริง อีกทั้งเคยพูดถึงเรื่องนี้ และเคยแสดงความบริสุทธิ์อย่างชัดเจนไปแล้ว

จึงไม่อยากจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก รวมถึงไม่ได้จ้างใครพูดหรือให้เป็นพยานฝ่ายตนอีกด้วย เพราะถ้าหากได้เงินจริง ๆ ก็คงไม่ต้องกรีดยางขายแล้ว

นายไชย์พล วิภา – นางสมพร หลาบโพธิ์ ลุงกับป้าของชมพู่ กล่าวว่า กรณีนี้ตนไม่เห็นแม่ชมพู่ดื่มสุรา เพราะแม่น้องชมพู่ไม่ดื่มของพวกนี้ ส่วนพ่อน้องชมพู่ไม่แน่ใจ เท่าที่เห็นไม่เห็นมีกินของพวกนี้

ส่วนตัวก็เห็นมีคนกินเหล้าบ้าง เป็นชาวบ้านที่ตั้งวงเหล้าหลังการหาชมพู่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าใครบ้าง ส่วนตำรวจเท่าที่ตนเห็นก็ไม่มี เพราะตนก็ไม่แน่ใจว่าใครเป็นตำรวจบ้าง

ทีมข่าวจึงได้ไปสอบถามนายพิศนุพร ชัยมะโย ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า ช่วงที่น้องชมพู่หายตัวไป ตนก็จำไม่ได้มากนักว่า ตำรวจ สภ.กกตูม เข้ามาในพื้นที่วันไหนบ้าง

แต่ตนเริ่มสังเกตเห็นตำรวจในช่วงวันที่ 12-13 พ.ค.63 ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าตำรวจมาอยู่ในพื้นที่นานแค่ไหน

แต่มั่นใจว่าไม่มีตำรวจมานั่งกินเหล้าอยู่ที่บริเวณใกล้ ๆ บ้านน้องชมพู่เลย เพราะตนก็อยู่ใกล้ ๆ บ้าน แต่ถ้าตำรวจจะไปนั่งดื่มอยู่จุดอื่นของหมู่บ้าน ตนก็ไม่เห็น และตนก็ไม่ได้ไปดื่มกับใคร

อย่างไรก็ตาม คนในหมู่บ้านไม่ค่อยรู้จักกับตำรวจ สภ.กกตูม มากนัก แต่ก็มีเพียงบางคนที่รู้จักกับชาวบ้าน ตนก็ไม่เห็นใครมาดื่มเหล้ากับคนในหมู่บ้านแต่อย่างใด

กรณีพ่อแบมยืนยันเรื่องเวลาว่า เจอลุงพลที่สวนยางใกล้บ้านในเวลา 9 โมงกว่า ในวันที่น้องชมพู่หายตัวไป ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ทีมข่าวจึงเดินทางไปพูดคุยกับนายวัชรินทร์ กงแก่ท้าว หรือ พ่อแบม ชาวบ้านกกกอก ที่เคยให้ข้อมูลว่า พบเจอกับลุงพลอยู่ที่สวนยางเวลา 9 โมงกว่าในวันเกิดเหตุ

เปิดเผยว่า ตนยังยืนยันคำเดิมว่าในวันเกิดเหตุที่เจอลุงพลนั้น ตนได้เจอในเวลา 9 โมงกว่าจริง ๆ ซึ่งตนก็ได้ให้ข้อมูลแบบเดิมกับตำรวจไปหลายครั้ง โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อมูล

นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า แต่ถ้าหากวันหนึ่งตนถูกนำตัวไปเป็นพยานนั้น ตนก็ยังคิดอยู่ว่าจะกล้าไปเป็นพยานหรือไม่

เพราะกลัวเรื่องผลกระทบที่ตามมา จึงยังไม่ตัดสินในเรื่องการเป็นพยาน อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าไม่ได้จำเหตุการณ์คาดเคลื่อน แต่ตนก็จำเวลาแบบนี้มาตลอด

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

นายไชย์พล วิภา – นางสมพร หลาบโพธิ์ ลุงกับป้าของชมพู่ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีความกังวลเรื่องนี้ แต่ความจริงมันแก้ไขไม่ได้

ซึ่งหากแม่น้องชมพู่ไม่เป็นพยานช่วงวัดจีพีเอส ตนก็ยังมีแม่ถอน กับนายม็อคที่เป็นพยาน รวมทั้งพ่อตา แม่ยาย แต่ตนไม่กังวล เพราะความจริงมันเปลี่ยนไม่ได้อยู่แล้ว

คลิป

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว

อ่านเพิ่มเติม